LED Wall แบบ Indoor และ Outdoor!

LED Wall คือจอแสดงผลขนาดใหญ่ ซึ่งเป็นการนำเอาแผงจอพร้อม LED Light มาเรียงกันให้อยู่ในรูปแบบ Module และ Cabinet (ขึ้นอยู่กับสภาพหน้างาน) โดยนำมาต่อกันเป็นจอภาพแสดงผลตามขนาดพื้นที่ที่ต้องการ (ใกล้เคียงกับขนาดพื้นที่ที่ต้องการได้มากที่สุด) ในรูปแบบต่าง ๆ

ซึ่งความละเอียดของจอแสดงผลที่ได้รับนั้น จะขึ้นอยู่กับขนาดของ LED Light ที่นำมาใช้ ยิ่งขนาดเล็กเท่าไร จะได้ความคมชัดมากเท่านั้น โดยเราจะเรียกมาตรฐานนี้ว่า Pixel Pitch ตัวอย่างเช่น P1, P2.5, P4 ซึ่งหมายความว่ายืนมองจากระยะกี่เมตร ถึงจะได้ความคมชัด นั่นคือ P1 คือมองระยะ 1 เมตรถึงได้ความคมชัด และ P2.5 คือการมองระยะ 2.5 เมตรนั่นเอง

ซึ่งการนำเอา LED Light มาเรียงไม่ว่าจะอยู่ในรูปแบบ Module หรือ Cabinet ก็ตาม มันจะถูกควบคุมด้วย Video Processor หรือ LED Controller ที่จะคอยเชื่อมหลอดภาพเข้าด้วยกัน โดยเรามีทีมผู้เชี่ยวชาญในด้าน LED Wall มากกว่า 7 ปี ทำให้เราสามารถเข้าสำรวจหน้างานเพื่อแนะนำ Spec รวมถึงขนาดจอ และโครงสร้างงานติดตั้งต่าง ๆ ให้กับคุณได้อย่างละเอียด

Pixel Pitch คืออะไร?

โดยส่วนมากเราจะเรียกตัวย่อว่า "P" หรือ "PH" (Pixel Pitch) นั่นคือระยะห่างระหว่างหลอด LED Light เล็ก ๆ ในแต่ละหลอดไฟ ซึ่งยิ่งละเอียดมากแค่ไหนก็จะทำให้ภาพที่ได้มีความคมชัดมากเท่านั้น

ในทำนองเดียวกัน หากค่า P (Pixel Pitch) ต่ำขนาดไหน ก็จะมีราคาที่สูงขึ้นตามความละเอียดของจอภาพ

แต่อย่างไรก็ตาม เราไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ P (Pixel Pitch) ที่ต่ำเกินความจำเป็นเสมอไป โดยปกติแล้ว การเลือกใช้ Pixel Pitch (P) จะคำนึงถึงระยะที่เราคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่จะมองจอ LED นี้ อยู่ในระยะไหนที่เหมาะสม เช่น โดยส่วนมากแล้ว ถ้าเป็นเกรด Indoor มักจะใช้ขนาด P2.5 (ซึ่งหมายถึงว่าเราคาดว่ากลุ่มลูกค้าที่จะมองจอ LED นี้ จะอยู่ในระยะ 2.5 เมตร) เพราะหากใช้ Pixel Pitch ที่ต่ำกว่านี้ ก็อาจจะทำให้มองภาพบนจอ LED ทั้งหมดไม่ได้ เนื่องจากอยู่ใกล้จอเกินไปนั่นเอง

และส่วนมากสำหรับ Outdoor มักจะเลือกเป็น P4 ขึ้นไป เพราะการติดตั้ง Outdoor มักจะเป็นกลุ่มลูกค้าที่มองจอ LED นี้ อยู่ในระยะไกล หรือจอ LED ที่ติดตั้งนั้นอยู่ที่สูง ทำให้ไม่จำเป็นที่จะต้องใช้ Pixel Pitch ที่ต่ำเกินไป